เสี่ยงน้อย ด้วยลักษณะกองทุนที่ออกแบบมา เพื่อลดความผันผวนจากหุ้นให้ต่ำลง
SCBLT1 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30
:: มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: จะมีสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 70% ที่เหลือจะเป็นตราสารหนี้
SCBLTS - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท
:: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: มีการลงทุนใน SET50 Index Fitures ในทิศทางที่ใช้หักล้างกับตลาดหุ้น
ทำให้ลดความผันผวนจากตลาดหุ้นได้เกือบ 40% ครับ
เสี่ยงมาก ด้วยลักษณะการลงทุนในหุ้นอย่างเต็มที่ แต่ในบางช่วงเวลาก็จะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนบ้างเล็กน้อย
SCBLT2 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส
:: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: ลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 ที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ประมาณ 90%
SCBLT3 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ
:: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: กระจายการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย
: กลุ่มหุ้น SET50 ประมาณ 40%
: กลุ่มหุ้นที่ต่ำกว่า SET100 และ MAI ประมาณ 40%
: ที่เหลือประมาณ 20% จะปรับเปลี่ยนตามสภาวะการณ์ รวมถึงมีการลงทุนใน SET50 Index Futures ด้วยครับ
SCBLT4 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์
:: มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: มีการกระจายไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศประมาณ 5 - 10% (SCBPGF, SCBPEF)
SCBLTT - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต
:: มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: เป็นรูปแบบผสมที่หลากหลายการลงทุน เหมือนเป็นตัวรวมของ LTF ทั้ง 5 กองทุนข้างต้นครับ
RMF :: จะมีทั้งหมด 4 กองทุน
SCBR1 - ไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อการเลี้ยงชีพ
:: ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อการลงทุนที่ปลอดภัย ไม่หวังผลตอบแทนที่สูงนัก เพื่อประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก
SCBR2 - ไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล เพื่อการเลี้ยงชีพ
:: เน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ความคู่กับประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับจากการลงทุน
SCBR3 - ไทยพาณิชย์เฟล็กซิเบิ้ล ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ
:: ระดับความเสี่ยงปานกลาง ด้วยการเพิ่มการลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่สูง ควบคู่กับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้
SCBR4 - ไทยพาณิชย์หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ
:: ระดับความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีการลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 แบบเต็มที่ คล้ายๆ กับ SCBLT2 ครับ
สรรพากรกำหนดครับ.... ว่าให้สิทธิสำหรับการลดหย่อนภาษีแค่ 10 ปี
นับจากปีสุดท้ายที่อนุญาตให้จัดตั้ง LTF ได้คือปี (มิ.ย.) 2550
ทำให้สิ้นสุดสิทธิที่จะนำไปใช้ได้คือปี พ.ศ. 2559 ครับ
RMF ก่อกำเหนิดมาจาก PVD (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) จากแนวคิดที่ว่า
เพดาน 15% ของเงินเดือน สูงสุดได้ถึง 3 แสนบาทนั้น มีคนที่ใช้สิทธิ์ได้
เต็มนั้นน้อยมากๆ จนแทบจะไม่มีเลย
เพราะหมายถึง ต้องมีรายได้ทั้งปี 2 ล้านบาท และได้รับเงินสมทบจากนายจ้าง
ถึง 15% เต็มๆ ผู้มีเงินได้ถึงจะสามารถสะสมได้เต็ม 15% ด้วย
ทำให้กำเหนิน RMF ขึ้นมาเพื่ออุดช่องว่างดังกล่าว ทำให้สามารถใช้ได้เต็ม
3 แสนบาทมากขึ้น แล้วยังเลยไปให้โอกาสสำหรับผู้ที่ไม่มีเงินเดือนสามารถ
ใช้สิทธิ์ได้อีกด้วย
ดังนั้นฐานการคำนวณของ RMF จึงรวมไปถึงรายได้ทุกประเภท มากกว่า
ที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคำนวณเฉพาะเงินเดือนเท่านั้นครับ
--------------
ดังนั้นเมื่อ RMF เป็นการเกาะ PVD มาเกิด จึงไร้ซึ่งข้อกำหนดเรื่องจำนวนปี
ในการลงทุนเช่นเดียวกับ PVD ครับ........
ต้องการปันผลด้วย
LT1 -> หุ้น 70 อื่นๆ 30 คล้ายๆ กองทุนผสม ขึ้นไม่แรง ลงไม่แรง กลางๆ ไปเรื่อยๆ
LT4 -> แบ่งส่วนหนึ่งไปลงทุนใน FIF
LTT -> ตลาดยังไม่ออกหัวออกก้อย ปล่อยให้ fund mgr. จัดการตามใจชอบ
ไม่อยากเอาปันผล
LT2 -> หุ้นใน SET เยอะ บางทีก็ 80-90%
LT3 -> คล้ายๆ PMO ปลอมตัวมา
LTS -> อาจจะมีพวก Future บางครั้งทำตัวสวนกะ SET
*ถ้า ตลาดเป็นขาขึ้น LT2, LT3 จะได้รับประโยชน์มากสุด หมายถึงตอนปู่ลบ ก็ลบเยอะไปด้วย
*ถ้าตลาดเป็นขาลง ชัดเจนหน่อย LTS จะช่วยให้ขาดทุนน้อยลง บางทีแอบบวกสวนก็มี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น